post image

เตรียมความพร้อมเมื่อเข้าสู่วัยหลังเกษียณอย่างมีความสุข

ประเทศไทยตอนนี้กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเเล้ว เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม Nest Nursing Home จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณกัน ซึ่งสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการสำรวจตัวเองในด้านต่าง ๆ ว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ทั้งในการเตรียมพร้อมด้านการใช้จ่าย สุขภาพ และโดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยในอนาคต การเลือกที่จะอยู่ที่บ้านพักคนชราหรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุก็ไม่ใช่สิ่งที่ยุ่งยากเสมอไป เพราะท่านที่เกษียณแล้วก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และเข้าร่วมอยู่ในสังคมที่มีคุณภาพ ทำให้เกิดความเบิกบานสำราญใจได้ หากมีการวางแผนการดำเนินชีวิตให้ดีและลงตัว
 

Nest Nursing Home มีเทคนิคง่าย ๆ ในการเตรียมความพร้อมให้กับชีวิตที่จะเผชิญเมื่อเข้าสู่วัยหลังเกษียณแล้ว ว่าทำอย่างไรให้มีความสุขในชีวิต ไปติดตามรายละเอียดกันได้เลย


1. มีการวางแผนชีวิตหลังเกษียณตั้งแต่เนิ่น ๆ
แม้ว่ามาตรฐานของอายุการทำงานทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจในบ้านเรา รวมถึงสถานประกอบการเอกชนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 60 ปี หรืออาจจะมีการขยายช่วงอายุเกษียณให้มากขึ้นในอนาคตก็ตาม แต่จริง ๆ แล้วการวางแผนชีวิตหลังเกษียณนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ที่ยังเป็นวัยทำงานในช่วงต้น ๆ โดยไม่ต้องรอให้อายุมากก่อน เพื่อให้มีเวลาในการวางแผนและเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งหากมีการวางแผนที่ดี อาจทำให้บางคนได้มีโอากาสที่จะเกษียณเพื่อออกมาใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ หรือได้พักผ่อนก่อนถึงวัย 60 ปีด้วยก็ได้

2. การเตรียมความพร้อมด้านการเงินให้กับชีวิตหลังเกษียณ
หลายคนมักมองข้ามความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมความพร้อมทางการเงินในชีวิตหลังเกษียณ หรืออาจจะชะล่าใจว่าค่อยเก็บเงินตอนใกล้ ๆ จะเกษียณก็ได้ ทำให้มีเวลาน้อยเกินไปที่จะเก็บ

ซึ่งจริง ๆ แล้วการวางแผนการเงินสำหรับชีวิตหลังเกษียณนั้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้อง เตรียมพร้อมเช่นเดียวกันกับด้านอื่น ๆ เพราะจะเป็นพื้นฐานในการใช้จ่ายในชีวิตหลังเกษียณ รวมถึงเป็นต้นทุนในการหาบ้านพักคนชรา หรือเป็นค่าใช้จ่ายในการพักอยู่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุด้วย โดยมีขั้นตอนในการวางแผนและเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินหลังเกษียณที่ควรทราบดังนี้

การคาดการณ์ช่วงอายุที่อยู่ในช่วงหลังเกษียณไปจนถึงสิ้นอายุขัย โดยอาจจะดูจากอายุของสมาชิกในครอบครัวในรุ่นก่อนหน้า เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นหลักว่ามีอายุเฉลี่ยยืนยาวเพียงใด และนำมาใช้ประมาณการอายุขัยของเราเอง

การคาดการณ์กิจกรรมและเป้าหมายในการดำเนินชีวิตหลังเกษียณ ด้วยการประเมินว่าจะมีไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตแบบไหน ตัวอย่างเช่น บางท่านอาจต้องการมีเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ให้ไม่น้อยไปกว่าการใช้จ่ายก่อนที่จะเกษียณเพื่อไม่ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก รวมถึงอาจจะต้องการมีเงินสำหรับการใช้จ่ายท่องเที่ยวพักผ่อน และเงินสำหรับสำรองใช้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพด้วย เป็นต้น

การประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับวัยเกษียณ ด้วยการนำอายุขัยและจำนวนเงินที่ต้องใช้ต่อเดือนลองมาคำนวณเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่นหากเราคาดว่าจะชีวิตหลังเกษียณประมาณ 20 ปีและมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ 20,000 บาทในปัจจุบันหากลองคำนวณในอีก 20 ปีข้างหน้า เราอาจจะต้องเตรียมเงินไว้ใช้ขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณเกือบ 5 ล้านบาท และหากคูณอัตราเงินเฟ้อ 3% ต่อปีก็อาจจะทำให้ต้องเพิ่มเงินสำหรับใช้ในวัยเกษียณ เป็นจำนวนเงินมากกว่า 8 ล้านบาทเลยทีเดียว

แน่นอนว่าจะตัวเลขตัวอย่างข้างต้นก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยสำหรับการเตรียมตัวเก็บเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ แต่อย่างไรก็ตามหากเราเริ่มต้นในการการวางแผนบริหารจัดการการเงินใหม่ ด้วยการแบ่งและเก็บออมจากรายได้ปกติในแต่ละเดือนตั้งแต่วันนี้ รวมถึงการใช้วิธีอื่น ๆ เพื่อทำให้มีเงินเก็บมากขึ้น อย่างเช่น การลงทุนในช่องทางต่าง ๆ การซื้อกองทุน ออมหุ้น หรือแม้แต่การนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะซื้อไว้เพื่อเก็งกำไร หรือการปล่อยให้เช่าและเก็บเงินเป็นรายเดือน ฯลฯ ก็จะทำให้คุณมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต แม้ว่าคุณจะเข้าสู่วัยเกษียณแล้วก็ตาม รวมถึงการเคลียร์ภาวะหนี้สินที่มีให้ได้ก่อนที่จะเกษียณอายุ ก็จะทำให้การดำเนินชีวิตในช่วงพักผ่อนบั้นปลายขีวิตของคุณนั้นหมดกังวลไปได้อย่างมาก

3. ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจวัยเกษียณให้แข็งแรง
สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับคนที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ จะต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้สูงอายุหลาย ๆ ท่านก็จะสูญเสียความสามารถและความมั่นใจในการดำเนินชีวิต ซึ่งหากไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนทัศนคติให้รับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละด้าน ก็อาจจะทำให้เป็นสาเหตุนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและโรคอื่น ๆ รวมถึงอาจเกิดปัญหาในการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวหรือกับคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

ดังนั้น การเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้ที่เข้าสู่วัยเกษียณก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่ลูกหลานดูแลเองที่บ้าน หรือท่านที่พักอาศัยในบ้านพักคนชรา และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โดยควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายและตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึง การทำจิตใจให้สดใสและมีความสุข โดยอาจหากิจกรรมใหม่ ๆ หรืองานอดิเรกที่ชอบทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อฝึกร่างกายจิตใจ รวมถึงเป็นการสร้างเสริมกิจกรรมเข้ากับคนรอบข้างหรือคนอื่น ๆ ในสังคมได้อีกทางหนึ่งด้วย

4. การเลือกที่อยู่อาศัยหลังเกษียณก็สำคัญ
สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จึงทำให้เริ่มมีการตื่นตัวและเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ การออกแบบบ้านพักคนชรา และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ในรูปแบบที่เป็นศูนย์บริการอย่างครบวงจร ซึ่งมีให้เลือกทั้งโครงการบ้านเดี่ยวทาวน์โฮม ตลอดจนคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นได้มากกว่าแค่บ้านพักคนชรา เพราะถูกออกแบบมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ จึงตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย บางแห่งมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับให้ผู้สูงอายุได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญสหสาขาวิชาชีพดูแลเฉพาะด้าน คอยให้ความช่วยเหลือทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันและดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

ซึ่งบ้านพักคนชราในรูปแบบนี้ ก็มีการเปิดให้จองสิทธิ์ในการเข้าอยู่ได้ล่วงหน้า และมีหลายระดับราคาให้เลือกตามต้องการ ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนในการเตรียมความพร้อมให้ชีวิตในวัยเกษียณได้ดำเนินไปอย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงบั้นปลายชีวิตนั่นเอง

และที่ Nest Nursing Home ก็เป็นอีกสถานที่ที่พร้อมให้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ /บ้านพักคนชราแก่ผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ ซึ่งจะเน้นการดูแลคุณภาพการใช้ชีวิตและสุขภาพอย่างเหมาะสม ทั้งในระยะกลางไปจนถึงระยะยาว โดยก่อนการใช้บริการนั้น จะมีแพทย์ทำการประเมินอาการแรกรับ ซึ่งจะนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้ในการเตรียมความพร้อมในการวางแผนการดูแลผู้สูงอายุในบ้านพักคนชรา หรือผู้ป่วยในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เช่น ข้อมูลโรคประจำตัว, ยาที่ต้องทาน, ความสามารถในการเคลื่อนไหว ทรงตัว และช่วยเหลือตนเอง, ความจำ ภาวะซึมเศร้า, โภชนาการ และอื่น ๆ อีกหลายด้าน โดยเมื่อแพทย์ประเมินแล้ว ก็จะมีการออกแบบโปรแกรมการดูแลและจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเหมาะสมกับผู้สูงอายุแต่ละรายเป็นรายบุคคล ทั้งโปรแกรมที่ฝึกเพื่อแก้และบรรเทาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคต่าง ๆ ของร่างกายและจิตใจ ให้มีความแข็งแรงและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

นอกจากบริการบ้านพักคนชราแล้ว Nest Nursing Home ยังเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ด้วยโปรแกรมพิเศษเฉพาะบุคคลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รวมถึงโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรือเป็นผู้ป่วยระยะพักฟื้น ก็จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม และคุณสามารถมั่นใจได้ด้วยการให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ โดยสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary team) ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักกายภาพ นักกิจกรรมบำบัด ผู้ช่วยการพยาบาล และนักวิชาการสาธารณสุข ซึ่งจะคอยดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวม (Holistic care) ตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้ามาพักในบ้านพักคนชราหรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุของเรา และจะดูแลต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผู้สูงอายุอาศัยอยู่กับเรา และในกรณีที่ผู้สูงอายุมีอาการเปลี่ยนแปลงหรือมีความเสี่ยงด้านสุขภาพเเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ของ Nest Nursing Home ก็จะประสานกับโรงพยาบาลในทันที เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด ลดโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้

สุดท้ายนี้ อย่าลืมเตรียมความพร้อมทุกด้านเหล่านี้ให้กับตัวคุณเองในยามที่จะเกษียณ หรือแนะนำข้อมูลการเตรียมตัวให้กับผู้สูงอายุที่คุณเคารพรักเพื่อที่จะได้วางแผนให้ตรงกับความต้องการทั้งด้านสุขภาพร่างกาย จิตใจ และที่สำคัญ อย่าลืมใส่ใจดูแลผู้สูงอายุวัยเกษียณรอบข้างคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเติมเต็มความสุขสำราญให้กับพวกท่านได้อยู่กับเราไปอีกนาน ๆ

หากคุณมีคำถามหรือต้องการความช่วยเหลือ
โปรดติดต่อทีมงานของเรา

Tel : 064-645-5045
Facebook : https://www.facebook.com/nestnursing
Line@ : https://line.me/ti/p/@nestnursing